BLEACH OP1
*~Asterisk~ - ORANGE RANGE
เพลง *~Asterisk~ จาก ORANGE RANGE ถูกนำมาใช้ในอนิเมะ
Bleach เทพมรณะ ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 25
ซึ่งช่วงเวลาของเพลงนี้ออกอากาศในญี่ปุ่นเมื่อวันที่
5 ตุลาคม 2004 - 29 มีนาคม 2005
เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ยาวมาก ๆ เลยล่ะครับ
เนื้อเพลง/คำแปล
miageta yozora no hoshitachi no hikari
inishie no omoi negai ga jidai wo koe iroaseru koto naku todoku
kirari hitomi ni utsuru dareka no sakebi
kaze ni omoi wo tsuki ni negai wo
chikara aru kagiri ikitekunda kyou mo
bokura no omoi mo itsuka dareka no mune ni
hikari tsuzukeyou ano hoshi no you ni
แสงสว่างของหมู่ดาวบนท้องฟ้ายามราตรีที่แหงนมอง
ความรู้สึกและความปรารถนาในอดีตก้าวข้ามผ่านยุคสมัยส่งมาถึงโดยไม่เลือนราง
เสียงกู่ร้องของใครบางคนสะท้อนเข้ามาในดวงตาที่เปล่งประกาย
ส่งความรู้สึกไปยังสายลม ส่งคำวิงวอนไปยังดวงจันทร์
จะมีชีวิตต่อไปตราบเท่าที่ยังมีแรง ในวันนี้ก็เช่นกัน
ความรู้สึกของเราก็ด้วย สักวันจะไปอยู่ในใจของใครบางคน
เปล่งประกายกันต่อไปให้เหมือนกับดาวดวงนั้น
hitotsu futatsu kane no ne wa hibiku
kokoro no naka e to hiroku fukaku
monogatari no you na hoshi no shizuku
sono naka ni hosoi senro wo kizuku
หนึ่ง สอง เสียงระฆังดังขึ้น
แผ่ขยายลึกลงไปยังก้นบึ้งของหัวใจ
เรื่องราวที่เหมือนกับหยาดหยดของดวงดาว
ภายในนั้นมีเส้นทางเล็ก ๆ อยู่เต็มไปหมด
jikan to tomo ni jidai wa ugoku
nagareru hoshi wa shizuka ni ugoku
me wo tojite mimi wo sumaseba G-O-O-D BYE
ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ดาวตกก็ผ่านไปอย่างไร้ซึ่งสุ้มเสียง
ลองหลับตาลงและฟังเสียงอาจจะได้ยินคำว่าลาก่อน
oozora ippai no shirokuro shashin nabiku mafuraa shiroi iki
sukoshi demo chikazuki takute ano takadai made kakeashi de
omoitai bouenkyou toridasu to renzu hamidashita sutaadasuto
jikan wo ubawareta jikan jidai wo koetekuru roman
ภาพถ่ายขาวดำของท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ผ้าพันคอที่พลิ้วไหวไปมา ลมหายใจสีขาว
อยากจะเข้าไปใกล้อีกแม้เพียงสักนิด วิ่งไปยังเนินสูงที่อยู่ตรงนั้น
เอากล้องส่องทางไกลอันหนักอึ้งออกมากับเลนส์ที่เต็มไปด้วยละอองดาว
เวลาที่เลยผ่านไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องราวโรแมนซ์ที่ข้ามผ่านยุคสมัย
hanate hikari makezu ni shikkari
ima toki wo koe dareka ni todoku made
eikou no hikari wa kono mukou ni kimitachi to tsukutteiku sutoorii
แสงสว่างที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ท้อถอย
บัดนี้ข้ามผ่านกาลเวลาไปจนกว่าจะถึงใครสักคน
แสงสว่างที่เจิดจรัสนั้นเป็นเรื่องราวที่จะร้อยเรียงขึ้นมากับพวกเธอ ณ ปลายทางแห่งนี้
miageta yozora no hoshitachi no hikari
inishie no omoi negai ga jidai wo koe iroaseru koto naku todoku
kirari hitomi ni utsuru dareka no sakebi
kaze ni omoi wo tsuki ni negai wo
chikara aru kagiri ikitekunda kyou mo
bokura no omoi mo itsuka dareka no mune ni
hikari tsuzukeyou ano hoshi no you ni
แสงสว่างของหมู่ดาวบนท้องฟ้ายามราตรีที่แหงนมอง
ความรู้สึกและความปรารถนาในอดีตก้าวข้ามผ่านยุคสมัยส่งมาถึงโดยไม่เลือนราง
เสียงกู่ร้องของใครบางคนสะท้อนเข้ามาในดวงตาที่เปล่งประกาย
ส่งความรู้สึกไปยังสายลม ส่งคำวิงวอนไปยังดวงจันทร์
จะมีชีวิตต่อไปตราบเท่าที่ยังมีแรง ในวันนี้ก็เช่นกัน
ความรู้สึกของเราก็ด้วย สักวันจะไปอยู่ในใจของใครบางคน
เปล่งประกายกันต่อไปให้เหมือนกับดาวดวงนั้น
ubugoe ageta chiisana hikari ookii na hikari jikuu wo koe deai
subete no kagayaki ga hitotsu tonari tsukuridasu monogatari
แสงเล็ก ๆ และแสงอันยิ่งใหญ่ก้าวข้ามผ่านกาล-อวกาศมาพบกันด้วยเสียงร้องแรกเกิด
แสงสว่างรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ถักทอขึ้นมาเป็นเรื่องราว
ten to ten wo musubu seiza no you ni dareka ni totte
bokura mo kirei na e egaketetara ii ne
ราวกับกลุ่มดาวที่เชื่อมจุดเข้าด้วยกัน ถ้าหากได้วาดรูป
ที่ไม่ว่าพวกเราหรือใครก็ตามเห็นว่าสวยก็คงดีนะ
miageta goran yo hora fuyu no daiamondo
yuruyaka na ama no gawa sugu yuuki tori modoseru kara
ลองมองขึ้นไปดูสิ นี่ไง เพชรแห่งฤดูหนาว
ทางช้างเผือกที่เคลื่อนไปอย่างช้า ๆ อีกไม่นานจะมอบความกล้ากลับคืนมา
hanate hikari makezu ni shikkari
ima toki wo koe dareka ni todoku made
eikou no hikari wa kono mukou ni kimitachi to tsukutteiku sutoorii
แสงสว่างที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ท้อถอย
บัดนี้ข้ามผ่านกาลเวลาไปจนกว่าจะถึงใครสักคน
แสงสว่างที่เจิดจรัสนั้นเป็นเรื่องราวที่จะร้อยเรียงขึ้นมากับพวกเธอ ณ ปลายทางแห่งนี้
miageta yozora no hoshitachi no hikari
inishie no omoi negai ga jidai wo koe iroaseru koto naku todoku
kirari hitomi ni utsuru dareka no sakebi
kaze ni omoi wo tsuki ni negai wo
chikara aru kagiri ikitekunda kyou mo
bokura no omoi mo itsuka dareka no mune ni
hikari tsuzukeyou ano hoshi no you ni
แสงสว่างของหมู่ดาวบนท้องฟ้ายามราตรีที่แหงนมอง
ความรู้สึกและความปรารถนาในอดีตก้าวข้ามผ่านยุคสมัยส่งมาถึงโดยไม่เลือนราง
เสียงกู่ร้องของใครบางคนสะท้อนเข้ามาในดวงตาที่เปล่งประกาย
ส่งความรู้สึกไปยังสายลม ส่งคำวิงวอนไปยังดวงจันทร์
จะมีชีวิตต่อไปตราบเท่าที่ยังมีแรง ในวันนี้ก็เช่นกัน
ความรู้สึกของเราก็ด้วย สักวันจะไปอยู่ในใจของใครบางคน
เปล่งประกายกันต่อไปให้เหมือนกับดาวดวงนั้น
kono sora wa hitotsu doko made mo hiroku
sou umi no mukou ima umareru ibuki taetareru inochi
hoshi wa terasu megami no gotoku
nagaku tsuzuku kurikaesu shunkashuutou* no
isshun demo ii sukoshi de ii omoi wo kizamu
tada hatenaku toki wo koe kagayaki dasu
ท้องนภานี้มีเพียงหนึ่งเดียวแผ่ขยายไปทั่วทุกหนแห่ง
และอีกฟากของท้องทะเลตอนนี้นั้นก็มีชีวิตที่กำลังได้หายใจและชีวิตที่ดับไป
ดวงดาวสาดแสงราวกับพระเจ้า
ระยะเวลาดำเนินซ้ำไปมาผ่านทั้ง 4 ฤดู*
แค่ครู่เดียวก็ยังดี สักวินาทีก็ยังดี ให้ได้จารึกลงไปในความรู้สึก
เพียงให้ได้ส่องสว่างข้ามผ่านกาลเวลาอย่างไม่รู้จบ
monogatari wa kokoro no naka de tsuzuiteiru
ano hi no kimi wa itsuka yogisha ni notte
เรื่องราวดำเนินไปอยู่ข้างในหัวใจ
เธอในวันนั้นสักวันนึงจะขึ้นรถไฟรอบดึกไป
miageta yozora no hoshitachi no hikari
inishie no omoi negai ga jidai wo koe iroaseru koto naku todoku
kirari hitomi ni utsuru dareka no sakebi
kaze ni omoi wo tsuki ni negai wo
chikara aru kagiri ikitekunda kyou mo
แสงสว่างของหมู่ดาวบนท้องฟ้ายามราตรีที่แหงนมอง
ความรู้สึกและความปรารถนาในอดีตก้าวข้ามผ่านยุคสมัยส่งมาถึงโดยไม่เลือนราง
เสียงกู่ร้องของใครบางคนสะท้อนเข้ามาในดวงตาที่เปล่งประกาย
ส่งความรู้สึกไปยังสายลม ส่งคำวิงวอนไปยังดวงจันทร์
จะมีชีวิตต่อไปตราบเท่าที่ยังมีแรง ในวันนี้ก็เช่นกัน
miageta yozora no hoshitachi no hikari
inishie no omoi negai ga jidai wo koe iroaseru koto naku todoku
bokura no omoi mo itsuka dareka no mune ni
hikari tsuzukeyou ano hoshi no you ni
แสงสว่างของหมู่ดาวบนท้องฟ้ายามราตรีที่แหงนมอง
ความรู้สึกและความปรารถนาในอดีตก้าวข้ามผ่านยุคสมัยส่งมาถึงโดยไม่เลือนราง
ความรู้สึกของเราก็ด้วย สักวันจะไปอยู่ในใจของใครบางคน
เปล่งประกายกันต่อไปให้เหมือนกับดาวดวงนั้น
hikari tsuzukeyou ano hoshi no you ni
เปล่งประกายกันต่อไปให้เหมือนกับดาวดวงนั้น
*คำว่า 春夏秋冬 shunkashuutou (ชุนคาชูโทว) แปลว่า 4 ฤดู ซึ่งประกอบไปด้วย
ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว ตามลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น