Fire Force Season 2 OP
SPARK-AGAIN - Aimer
เพลง SPARK-AGAIN จาก Aimer ถูกนำมาใช้ในอนิเมะ
Fire Force หรือ Enen no Shouboutai ซีซั่นที่ 2
ซึ่งออกอากาศที่ญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 3 กรกฎาคม 2020
SPARK-AGAIN นับเป็นเพลง Opening ลำดับที่ 3 ของ Fire Force
เนื้อเพลง/คำแปล
nakushita mono bakari nokoshita kono hidane wa
hanasanai hanasanai kara zutto
aimai monogatari seikai nante nakutatte
fumidasu you ni naretara
สูญเสียทุกสิ่งที่มี เหลือเพียงแต่กองเถ้าถ่านนี้
ที่ยังไงก็จะไม่ยอมปล่อยไป
เรื่องราวที่คลุมเครือถึงมันจะไม่ได้ถูกต้องก็เถอะ
แต่ถ้าทำให้เดินหน้าไปได้ล่ะก็
“dou ka shiteru” tte iu kedo dou ni ka shite ageru yo
dou nattara ii ka sae wakaranaku naru kedo
yume ga sono tonari de kakugo wo kimeta nara
utagau mono nante nanimo naku naru kara
ถึงจะพูดว่ามีอะไรผิดไปรึเปล่าแต่ว่าก็จะลงมือทำอะไรสักอย่าง
ต่อให้จะไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะทำยังไงดีก็เถอะแต่ว่า
ถ้าตัดสินใจกับความฝันที่อยู่ข้าง ๆ ตรงนั้นแล้วล่ะก็
งั้นสิ่งที่เราแคลงใจนั่นน่ะก็คงจะไม่เหลือแล้วล่ะ
hibana chitte hibuta kitte shiro ka kuro no hai ni kaeru made
tobikiri no crown nara te ni iretai te ni iretai
kaze wo kitte kimi no hou e ichi ka bachi ka* zero ni kaeru made
fusagikonda clown nara shinra banshou hajimannai yo
ประกายไฟกระจัดกระจาย เริ่มเผด็จศึก จนกว่าจะเปลี่ยนเป็นขี้เถ้าสีขาวหรือดำ
ถ้าเป็นมงกุฎที่แสนเลิศเลอล่ะก็ อยากจะครอบครองไว้ อยากจะครอบครองไว้
ตัดผ่านสายลมไปสู่เธอ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นศูนย์
หากเป็นตัวตลกที่เอาแต่นั่งซึมล่ะก็ทุกสิ่งอย่างก็ไม่ได้เริ่มต้นหรอก
hai mo kogasu you na ai wo miseru kara
I just spark again
จะแสดงความรักที่เผาไหม้แม้แต่ขี้เถ้าให้เห็นเอง
ฉันแค่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
kurayami yamikumo ni sagashita sono senaka wa
todokanai todokanai kedo kitto
nannimo nai kuse ni tomadou mae ni tobidashita
ano hi no you ni naretara
แผ่นหลังนั้นที่ได้ค้นหาในความมืดมิด
เอื้อมไปไม่ถึง เอื้อมไปไม่ถึง แต่ว่านะ
ถ้าเป็นได้อย่างวันนั้นที่ได้กระโดดออกไป
ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรเลยก่อนที่จะสับสนล่ะก็
doukasen ga nakutemo kokoro ni hi tomosu yo
doko ni iku no ka sae wakaranaku nattemo
kimi no sono tonari de tsuyokute wo tsunageba
osoreru mono nante nanimo naku naru kara
ถึงจะไม่มีชนวนก็ตามก็จะจุดไฟขึ้นมาในหัวใจ
แม้จะไม่รู้แม้กระทั่งจุดหมายปลายทางก็ตามที
ถ้าได้จับมือแน่น ๆ อยู่ข้าง ๆ เธอ
เรื่องที่หวาดกลัวนั่นน่ะก็คงจะไม่เหลือแล้วล่ะ
hikari sashite terasu hou e itsuka yoru no koe mo hateru made
arifureta toon nara mou iranai me mo kurenai
koe wo kiite mae wo muite shiro ka kuro de kataru dake no mirai
ojikezuite shimau mae ni sonna gensou keshisaritai yo
ไปยังทางที่แสงสาดส่องมาสว่างไสว จนกว่าเสียงของค่ำคืนจะหมดลงในสักวัน
ถ้าเป็นโทนเสียงธรรมดาล่ะก็ ไม่ต้องการหรอก จะไม่ชายตามอง
เงี่ยหูฟัง มองไปข้างหน้า อนาคตที่เล่าได้เพียงแค่ขาวหรือดำ
อยากจะลบภาพลวงตาทิ้งไปก่อนจะรู้สึกกลัวขึ้นมา
taiyou mitai na ai wo miseru kara
I just spark again
จะแสดงความรักที่ราวกับดวงอาทิตย์ให้เห็นเอง
ฉันแค่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
nakushite kita mono nara kazu shirezu
sutete shimatta mono nado nanimo nai
ถ้าเป็นสิ่งที่ได้สูญเสียไปแล้วล่ะก็มีนับไม่ถ้วนเลยล่ะ
แต่ไม่มีเลยสักอย่างที่ได้โยนทิ้งไป
hibana chitte hibuta kitte shiro ka kuro no hai ni kaeru made
tobikiri no crown nara te ni iretai te ni iretai
kaze wo kitte kimi no hou e ichi ka bachi ka zero ni kaeru made
fusagikonda clown nara shinra banshou hajimannai yo
ประกายไฟกระจัดกระจาย เริ่มเผด็จศึก จนกว่าจะเปลี่ยนเป็นขี้เถ้าสีขาวหรือดำ
ถ้าเป็นมงกุฎที่แสนเลิศเลอล่ะก็ อยากจะครอบครองไว้ อยากจะครอบครองไว้
ตัดผ่านสายลมไปสู่เธอ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นศูนย์
หากเป็นตัวตลกที่เอาแต่นั่งซึมล่ะก็ทุกสิ่งอย่างก็ไม่ได้เริ่มต้นหรอก
hai mo kogasu you na ai wo miseru kara
I just spark again
จะแสดงความรักที่เผาไหม้แม้แต่ขี้เถ้าให้เห็นเอง
ฉันแค่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
taiyou mitai na ai de terasu kara
I just spark again
เพราะจะส่องสว่างด้วยความรักที่ราวกับดวงอาทิตย์
ฉันแค่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
* 一か八か ichi ka bachi ka เป็นสำนวนในภาษาญี่ปุ่นซึ่งมีความหมายประมาณว่า
ไม่ 1 ก็ 8 หรืออธิบายได้ว่าให้เราทำไปให้เต็มที่ ผลจะเป็นยังไงก็สุดแล้วแต่ฟ้าจะกำหนด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น